เว็บไซต์ สำคัญไหม? มาดู 8 ข้อดีหากธุรกิจคุณมีเว็บเป็นของตัวเอง

หลายๆ คนอาจสงสัยว่าการทำธุรกิจในยุคสมัยนี้ยังจำเป็นต้องมี เว็บไซต์ อยู่ไหม? ในเมื่อผู้บริโภคต่างพากันไปซื้อสินค้าในแพลตฟอร์ม E-commerce และ Social Media อีกทั้งแพลตฟอร์มเหล่านี้ยังสามารถทำการตลาดได้ ยิงโฆษณาได้ แถมยังดู Insight ต่างๆ ได้ในตัว มีหน้าร้านแค่บนแพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่พอหรอ?

เหตุผลที่กล่าวมาเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ถ้าคุณมีเว็บไซต์ด้วยอีกหนึ่งช่องทาง จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายและสร้างธุรกิจให้เติบโตแบบระยะยาว เพิ่มโอกาสดึงดูดลูกค้าที่มี potential มีความพร้อมที่จะซื้อ เพิ่มการเข้าถึงที่ทำได้ตลอด 24 ชม. ทุกที่ทุกเวลา และยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ จากการที่ผู้บริโภคเสิร์ชหาข้อมูลใน Google ยิ่งถ้าคุณเป็นแบรนด์หน้าใหม่ ผู้บริโภคต้องถามหาความน่าเชื่อถือของแบรนด์อยู่แล้ว ซึ่งสิ่งที่จะช่วยการันตีความน่าเชื่อถือของคุณก็คือ Website  แถมยังต่อยอดในการทำการตลาดได้อีกด้วย และที่สำคัญคือคุณไม่ต้องกังวลว่าจะโดนปรับค่าคอม หรือลดการมองเห็นสินค้าถ้าหากไม่โฆษณาบนแพลตฟอร์มอีกด้วย ดังนั้นในบทความนี้ DTK AD ชวนมาดูว่า Website สำคัญอย่างไร ช่วยธุรกิจคุณได้อย่างไรบ้าง?

 

เว็บไซต์ สำคัญอย่างไร ทำไมธุรกิจต้องมี?

1. เว็บไซต์ ก็คือ บ้านของเรา เราจะทำอะไรก็ได้

การมีบ้านเป็นของตัวเอง เรามีอิสระในการออกแบบ สามารถจัดวางสิ่งของต่างๆ ในบ้านได้ตามชอบ เปรียบเสมือนเว็บไซต์ของเราเอง ที่เราอยากจะออกแบบให้มีรูปลักษณ์ได้ตามต้องการ อยากให้หน้าโฮมเพจที่เป็นเป็นตัวแทนของแบรนด์เป็นยังไง จัดวางแคตตาลอกสินค้าไว้ตรงไหนให้เด่น จะแบ่งหมวดหมู่ยังไงให้ลูกค้าใช้ง่าย หรืออยากเอารีวิวดีๆ มาโชว์ในหน้าแรกเพื่อโน้มน้าวใจลูกค้าก็ทำได้ ไม่มีข้อจำกัดหรือข้อบังคับเหมือนเวลาที่เราไปใช้แพลตฟอร์มของคนอื่นที่มีเทมเพลตและฟังก์ชั่นกำหนดมาให้ และยิ่งแบรนด์สามารถออกแบบเว็บไซต์ได้สวยงาม ใช้ง่ายไม่ซับซ้อน ลูกค้าจะยิ่งประทับใจ ได้ประสบการณ์ในการใช้งานที่ดี เพิ่มโอกาสในการเกิด conversion อีกด้วย

 

2. ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และเป็นตัวแทนที่แข็งแกร่งของแบรนด์

Website เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ และบ่งบอกความเป็นแบรนด์ได้อย่างดี ผู้บริโภคจะรับรู้ได้ตั้งแต่กดเข้ามายังเว็บไซต์หน้าแรก ไปจนถึงอ่านเนื้อหาต่างๆ ดูสินค้า รูปภาพ วิดีโอ รีวิว ฯลฯ คู่แข่งมากมายอาจจะขายสินค้าคล้ายๆ กับคุณ แต่เว็บไซต์จะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณโดดเด่นออกมาจากคู่แข่งได้

หากคุณไม่มีเว็บไซต์ เวลาผู้บริโภคเกิดข้อสงสัยหรืออยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม แต่พอเสิร์ชหากลับไม่เจอข้อมูลจากเว็บไซต์ของคุณเลย มีแต่ข้อมูลจากแหล่งอื่น ผู้บริโภคอาจเกิดความสงสัยและไม่เชื่อใจในแบรนด์ทันที ดังนั้นการมีเว็บไซต์เป็นโอกาสในการสร้างความประทับใจแรก และทำให้ลูกค้าเชื่อใจว่าคุณเป็นธุรกิจจริงๆ 

ลองนึกถึงธุรกิจแบรนด์ดังๆ สักแบรนด์ อย่างเช่น Apple หากวันนี้เค้าไม่มีเว็บไซต์ออฟฟิเชียลแล้ว ประสบการณ์ที่คุณจะได้รับเมื่อเข้าไปใช้งานเว็บไซต์ ความเป็นมินิมอล ดูไฮเทคสมัยใหม่ ความหรูหราความแพงที่ไปช่วยส่งเสริมตัวสินค้าจะหายไปเลย นี่แหล่ะคือความแข็งแกร่งของเว็บไซต์เมื่อคุณดีไซน์เนื้อหา รูปลักษณ์ การใช้งานต่างๆ ออกมาได้อย่างดี

 

3. ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น 

หนึ่งใน Customer Journey ของผู้บริโภคก็คือ การเสิร์ชหาข้อมูลเพิ่มเติมในโลกออนไลน์ก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งช่องทางเด่นๆ ที่ร้อยทั้งร้อยต้องใช้งานเลยคือ Google ซึ่งเป็น browser ที่คนทั่วโลกและคนไทยใช้เป็นอันดับต้นๆ คิดดูว่าถ้าคุณมีเว็บไซต์ จะเพิ่มโอกาสในการถูกมองเห็นและเข้าถึงผู้คนได้มากมายขนาดไหน ดังนั้น การไม่มีเว็บไซต์ก็เหมือนเป็นการตัดโอกาสหลายๆ อย่างของธุรกิจคุณเลย

 

4. ช่วย Convert ผู้บริโภคที่ค้นหาข้อมูล ให้กลายเป็นลูกค้าได้ง่าย 

ผู้บริโภคที่มาค้นหาข้อมูล แปลว่าเขากำลังมีความสนใจต่อสินค้า หรือบางทีไม่รู้จักสินค้าแต่กำลังมีปัญหาที่สินค้านั้นช่วยได้ จึงมาเสิร์ชหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เมื่อพวกเขากดเข้ามาใน Website แบรนด์จึงสามารถส่งเนื้อหาที่ trigger ให้ซื้อสินค้า หรือเกิด conversion ได้ง่ายขึ้น เช่น เด้งข้อความส่วนลดเพื่อจูงใจให้ซื้อสินค้า หรือเขียนบล็อกให้ความรู้ แล้วแทรกฟอร์มให้ลูกค้ากรอกข้อมูลพร้อมอีเมลเพื่อรับข่าวสารเพิ่มเติม ถึงแม้ลูกค้าอาจจะยังไม่ซื้อสินค้าในครั้งแรก แต่พวกเขาได้รับข้อมูลกระตุ้นที่แบรนด์ต้องการแล้ว พวกเขาอาจเข้ามาซื้อสินค้าในครั้งต่อไป ซึ่งโอกาสที่จะขายของได้ก็จะมีมากขึ้น เพราะลูกค้ามี Intent แล้วที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับโปรดัคของเราจะช่วยลูกค้าแก้ปัญหาความต้องการได้หรือไม่

 

5. ช่วยแบ่งเบางบในการทำการตลาด ด้วยการทำ SEO

แบรนด์สามารถเพิ่มโอกาสให้คนที่มาเสิร์ชหาข้อมูลมองเห็น Website ได้มากขึ้น ด้วยการปรับปรุงคุณภาพเว็บไซต์ หรือการทำ SEO (Search Engine Optimization) เป็นการทำให้เว็บไซต์ของคุณอยู่ในตำแหน่งบนๆ ของหน้าการค้นหาของ Google (Search Engine Result Page : SERP) โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

นั่นหมายความว่า ถ้าคุณทำ SEO ให้มีคุณภาพดีตามที่กูเกิ้ลกำหนด เมื่อมีคนเสิร์ช keyword ที่เกี่ยวกับแบรนด์ สินค้า คุณสมบัติของสินค้าของคุณ พวกเขามีโอกาสสูงที่จะเห็นเว็บไซต์ของคุณอยู่ในตำแหน่งบนๆ หรือตำแหน่งที่ง่ายต่อการคลิกนั่นเอง ซึ่งแบรนด์ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด แต่ต้องรู้วิธีทำ SEO ที่ถูกต้อง ซึ่งคุณสามารถศึกษาการทำ SEO อย่างละเอียดได้ที่บทความ SEO คืออะไร? เผยทริคทำ SEO ให้ติดหน้าแรกบน Google  นอกจากนี้ การทำ SEO เหมาะกับการทำการตลาดแบบ Long-term เพราะต้องใช้เวลาในการติดอันดับในหน้าค้นหา

นอกจากนี้ แบรนด์ควรเลือกใช้ keyword ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์และสินค้าถึงจะมีประสิทธิภาพ และจะต้องเป็นคีย์เวิร์ดที่มีวอลุ่มในการค้นหาสูงๆ หรือเป็นคำที่เฉพาะแต่มีจำนวนการค้นหามากก็ได้ DTK AD ได้รวบรวมเครื่องมือช่วยหาคีย์เวิร์ดที่มีคุณภาพไว้ที่บทความ รวม 6 เครื่องมือหา Keyword ทำ SEO และ SEM ให้แข็งแกร่งเหนือคู่แข่ง คำไหนที่ควรใช้

 

6. ช่วยประหยัดงบและเวลาในด้าน Customer Service

เมื่อลูกค้าเกิดข้อสงสัย หรือเกิดปัญหาขึ้นกับสินค้าหรือบริการ พฤติกรรมของลูกค้าส่วนใหญ่มักเสิร์ชหาคำตอบใน Google ก่อนว่าเคยมีใครเป็นแบบนี้บ้าง แก้ยังไง ทำยังไง ซึ่งการที่แบรนด์สามารถตอบข้อสงสัย หรือแก้ปัญหาให้พวกเขาได้ ด้วยการมีหมวดหมู่ตอบข้อสงสัยเหล่านี้โดยเฉพาะ แค่เสิร์ชก็เจอคำตอบจากแบรนด์เลย สามารถสร้างความประทับให้ลูกค้าได้ และแบรนด์ก็ได้ประโยชน์ด้วย ช่วยลดงานของพนักงานลง หรือบางทีก็ไม่ต้องเสียงบจ้างพนักงานเลยก็ได้ คุณก็สามารถซัพพอร์ตลูกค้าได้ตลอด 24 ชม. แถมยังได้ Traffic เข้าเว็บไซต์ Win-Win ทั้งสองฝ่าย ซึ่งวิธีที่แบรนด์จะซัพพอร์ตลูกค้าได้ เช่น

– สร้าง Landing Page คำถามที่พบบ่อย หรือ FAQs ของแต่ละคำถาม เมื่อลูกค้าเกิดข้อสงสัยหรือปัญหา แค่เสิร์ชหาวิธีแก้ ก็สามารถเจอคำตอบได้เลยโดยไม่ต้องเสียเวลาโทรถาม หรือรอสายคุยกับพนักงาน ประหยัดทั้งเวลาและงบ ในขณะเดียวกันก็ได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงประเด็นต่อลูกค้า

– Chatbots คอยตอบคำถามที่พบบ่อยให้ลูกค้าแบบอัตโนมัติ เป็นการสร้างชุดคำตอบของแต่ละคำถามเอาไว้ก่อน เช่น วิธีการสมัครใช้งาน ข้อมูลสินค้าหรือบริการ ข้อมูลประกันสินค้า ฯลฯ เมื่อลูกค้าแชทถามเข้ามา ระบบจะเด้งคำตอบให้ทันที

– แบรนด์สามารถให้ข้อมูลต่างๆ ได้อย่างละเอียดไม่มีข้อจำกัด เช่น บางแพลตฟอร์มอาจจะมีการจำกัดรายละเอียดให้เราใส่จำนวนตัวอักษรตามที่กำหนด

 

7. สามารถนำไปต่อยอดทำการตลาดออนไลน์ได้หลากหลาย

นอกจากทำ SEO แล้ว คุณยังสามารถนำ Website ไปทำการตลาดอื่นๆ ได้อีกมากมาย เช่น นำไปต่อยอดทำ Social Media Marketing เพราะโซเชียลมีเดียก็เป็นแพลตฟอร์มที่มีคนใช้งานเป็นจำนวนมาก อย่าง Facebook, Instagram, Line, Tiktok และอื่นๆ อีกมากมาย คุณสามารถดึงผู้ที่ใช้งานโซเชียลฯ มาที่เว็บไซต์ด้วยการทำคอนเทนต์ที่น่าสนใจพร้อมใส่ลิงก์ของเว็บไซต์เข้าไป เพื่อให้คนไปอ่านต่อหรือไปเลือกซื้อสินค้าในเว็บไซต์ได้

หรือทำการตลาดแบบรู้ใจด้วยการทำ Marketing Automation ที่มีการใช้ซอฟท์แวร์เข้ามาช่วย คุณสามารถเซ็ตโฟลวไว้ได้ว่า เมื่อคนที่ Sign up ในเว็บไซต์แล้ว และเข้ามาดูสินค้าชนิดหนึ่งแต่ยังไม่ได้ซื้อ ให้ส่งอีเมลแนะนำสินค้าชนิดนั้นไปให้ในวันต่อไป เป็นต้น

อ่านเพิ่มเติมเรื่อง Social Media Marketing, Marketing Automation และกลยุทธ์การทำ Personalized Marketing ได้ที่ 

• Social Media Marketing (SMM) คืออะไร? ทำอย่างไรให้ยอดขายพุ่ง ธุรกิจโต
• Marketing Automation คือ? ทำความรู้จักเครื่องมือทุ่นแรงให้ธุรกิจ พร้อมสร้างยอดขายแบบก้าวกระโดด
• Personalized Marketing คือ? กลยุทธ์ช่วยธุรกิจคุณเข้าไปอยู่ในใจลูกค้า พร้อม Case Study จากแบรนด์ดังที่ประสบความสำเร็จ

 

8. สร้าง Landing Page เพื่อเพิ่ม Conversion และยอดขาย

สามารถทำการตลาดได้หลากหลายมากขึ้น เช่น คุณต้องการให้มีคนมาลงทะเบียน หรือสมัครคอร์สเรียนสักอย่างกับคุณ หรือแม้แต่มาใช้บริการทดลองขับรถ ถ้าหากคุณใช้แค่ Facebook ช่องทางเดียวก็อาจจะทำได้แค่โฆษณา Lead Generation เพื่อให้คนมาลงทะเบียน แต่ถ้าหากคุณมีเว็บไซต์ คุณจะสามารถทำโฆษณาแบบอื่นได้เพิ่มเติม เช่น แคมเปญที่เน้น Traffic หรือ เน้น Conversion เมื่อทำการคลิกโฆษณา ผู้ใช้ก็จะถูกพามายังหน้าเว็บไซต์หรือ Landing Page ที่คุณเตรียมเอาไว้ ก็จะทำให้เพิ่มช่องทางในการลงทะเบียนได้มากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อการทำการตลาดตรงที่คุณสามารถเปรียบเทียบว่าโฆษณารูปแบบไหนที่ทำให้เกิด Lead ได้มากที่สุด แล้ว Cost per lead โฆษณาไหนถูกกว่ากัน และนอกจากนั้นการทำ Landing Page จะทำให้เราสามารถดีไซน์รูปแบบที่น่าสนใจ และสามารถให้ข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ ทำให้มีโอกาสที่จะ Convert กลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น และที่สำคัญคือเราสามารถ Tracking ข้อมูลและทำโฆษณา Retargeting กลับไปหากลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย

• เรียนรู้เพิ่มเติมว่า Landing Page คืออะไร ทำยังไงให้เรียก conversion คลิก! 

หากคุณกำลังมองหาตัวช่วยทำการตลาดออนไลน์ด้วย Website ให้เห็นผล ยอดขายเติบโต สร้างรายได้ให้แบรนด์ได้จริง  DTK AD ช่วยคุณได้ เราเป็นเอเจนซี่ที่มีทีมการตลาดมากประสบการณ์ที่ทำการตลาดให้กับแบรนด์ชั้นนำของญี่ปุ่นมากมาย และเชี่ยวชาญในวงการตลาดไทยมานานกว่า 10 ปี เราให้บริการวางแผนการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์แบบครบวงจร พร้อม Tools ที่เก็บข้อมูลได้อย่างแม่นยำ ทำให้แบรนด์เห็นผลลัพธ์ที่เติบโตได้แบบไม่ต้องลองทำเอง ลองพูดคุยขอคำปรึกษาได้ก่อน ฟรี!

 

สรุป

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ทุกคนคงจะเห็นแล้วว่า เว็บไซต์ ให้ประโยชน์กับธุรกิจมากมาย เป็นสมบัติของธุรกิจที่คุณจะปรับแต่งโยกย้าย หรือเปลี่ยนสี หน้าตายังไงก็ได้ ช่วยการันตีความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ แบ่งเบางบไปได้หลายด้าน เช่น งบการตลาด งบการจ้างคน ในขณะเดียวกันก็ช่วย Convert ลูกค้าเข้ามาหาแบรนด์ได้มากขึ้น นำไปต่อยอดกับโซเชียลมีเดียหรือต่อยอดกับกลยุทธ์การตลาดอย่างอื่นได้ เช่น Marketing Automation, Personalized Marketing ดังนั้นสรุปได้ว่า เว็บไซต์ยังคงสำคัญกับแบรนด์ในยุคนี้อยู่แบบไม่ต้องสงสัย

 

อ่านบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้ที่นี่

• Content Marketing คืออะไร? สร้างกลยุทธ์สื่อสารอย่างไรให้เห็นผลจริง?

• Data Driven Marketing คือ? ใช้ข้อมูลสร้างแบรนด์อย่างไรให้ปัง!!

• เจาะลึก Customer Insight คืออะไร? เก็บข้อมูลจากไหนได้บ้าง พร้อมตัวอย่างการนำไปใช้

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารที่นักการตลาดต้องรู้ อัปเดตใหม่เรื่อยๆ ที่ Facebook: DTK AD Co., Ltd.

 

Source: [1], [2], [3]

 

Author: Wanna Julanon