Marketplace เช่น Shopee Lazada มีอัตราการเติบโตขึ้นทุกปี และโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปี 2019 ที่เป็นยุคโควิดแพร่ระบาดจนถึงปัจจุบัน ทำให้ร้านค้าต่างๆ ปรับตัวโดยการเปิดหน้าร้านบนแพลตฟอร์มเหล่านี้มากขึ้น เพื่อให้ตอบสนองกับความต้องการและพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภค อีกทั้งแพลตฟอร์มเหล่านี้ใช้งานได้แบบออนไลน์ ทำให้ร้านค้าเจอผู้บริโภคได้มากขึ้นหลายเท่าตัว โดยไม่จำกัดพื้นที่ ไม่จำกัดเวลา สามารถขายของได้ตลอด 24 ชั่วโมง จึงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ร้านค้าต่างๆ เข้ามาขายของบนแพลตฟอร์มเหล่านี้อย่างมหาศาลเนื่องจากมีจำนวนผู้ใช้งานในแต่ละวันเยอะมากๆ ทำให้บางแบรนด์มียอดขายหลักหลายล้านบาทต่อเดือน

 

ซึ่งธุรกิจของคุณก็สามารถสร้างโอกาส สร้างยอดขายได้เหมือนๆ กับแบรนด์อื่น และทาง DTK AD ที่ได้วางแผนกลยุทธ์ให้กับลูกค้ามาหลายแบรนด์ จึงทำให้มีเทคนิคและวิธีปรับปรุงร้านค้า เพื่อสร้างแรงดึงดูดให้ผู้บริโภคมาซื้อสินค้าในแต่ละประเภท เพิ่มยอดขายให้เติบโตบน Marketplace มาแนะนำ 

 

5 วิธีดันยอดขายบน Marketplace ให้เติบโต สร้างร้านค้าให้ชนะคู่แข่งบน Shopee Lazada

1. เลือกใช้คีย์เวิร์ดจากคำค้นหาของผู้บริโภค

ท่ามกลางคู่แข่งที่ขายสินค้าประเภทเดียวกันกับคุณ คุณต้องทำทุกวิถีทางให้ลูกค้าเห็นคุณก่อน อันดับแรกต้องรู้ว่าคนที่จะมาซื้อสินค้าของคุณมักจะใช้คีย์เวิร์ดแบบไหนในการค้นหาสินค้า จากนั้นนำคีย์เวิร์ดนั้นมาใส่ในชื่อสินค้า สร้างแฮชแท็ก และใส่ในคำอธิบายรายละเอียดสินค้า เป็นการเพิ่มโอกาสให้ลูกค้ามาเห็นสินค้าของเรามากขึ้นจากการค้นหาบน Search Bar (ช่องค้นหา) โดยไม่ต้องเสียเงิน เช่น ถ้าเราขาย เสื้อผ้า แต่เราไม่ได้มีคีย์เวิร์ดคำว่า “เสื้อผ้า” อยู่ในชื่อสินค้าก็อาจจะทำให้ลูกค้าค้นหาเราไม่เจอ หรือลูกค้าค้นหาว่า “เสื้อผ้า+ชื่อแบรนด์เรา” แต่เราไม่ได้ใส่คีย์เวิร์ดที่เป็นชื่อแบรนด์ของเราในสินค้า ก็อาจจะทำให้เราต้องไปแข่งกับร้านอื่นๆ ทั้งที่ลูกค้าต้องการจะซื้อสินค้าของเราแล้วก็อาจจะพลาดโอกาสตรงนี้ได้

ตัวช่วยในการหาคีย์เวิร์ดที่ลูกค้าใช้ค้นหา 

• เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ด 

เช่น Google Keyword Planner, Google Trend ช่วยค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสินค้า พร้อมแสดงอัตราการค้นหาว่าคำไหนถูกค้นหามาก-น้อยเพียงใด 

• Keyword Related บน Search Bar 

ลองพิมพ์คำที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณในช่องค้นหา แล้วจะมีคีย์เวิร์ดที่ผู้คนมักใช้ค้นหาขึ้นมาแนะนำ 

• Marketplace Ad Tools

Ad Tools จะมีฟีเจอร์ให้คุณสามารถตรวจสอบคีย์เวิร์ดที่ผู้บริโภคใช้ค้นหาในแพลตฟอร์มนั้นๆ ได้ โดยบอกอัตราการถูกค้นหา พร้อมบอกระดับความยากง่ายและราคาในการนำไปซื้อโฆษณาด้วย 

 

2. ดึงดูดด้วยรูปภาพที่โดดเด่น / รายละเอียดสินค้าครบ / รีวิวต้องมี

ลองนึกถึงเวลาที่คุณจะซื้อของบน Marketplace เมื่อกดค้นหาแล้วจะมีสินค้าจากร้านต่างๆ มาเรียงรายแสดงขึ้นมาให้เลือกมากมาย คุณก็ต้องเลือกร้านที่มีรูปสวยสะดุดตา เข้าไปดูสินค้าจริงแล้วมีความน่าเชื่อถือถูกไหมคะ ดังนั้นเราต้องทำทุกองค์ประกอบให้ดีที่สุด คิดซะว่าถ้าหากเราเป็นลูกค้าข้อมูลรายละเอียดแบบไหนที่เราอยากทราบ เพื่อใช้ในการตัดสินใจซื้อสินค้าชิ้นนั้นๆ

• รูปภาพ

ดึงดูดความสนใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นด้วยรูปภาพสินค้าที่โดดเด่น คมชัด สวยงาม เพื่อให้ลูกค้าคลิกเข้ามาดูสินค้าของเราก่อน จากนั้นมีรูปสินค้าเพิ่มเติมที่โชว์ให้เห็นหลายๆ มุม รูปตัวอย่างตอนใช้งานจริง หรือมีวิดีโอสาธิตการใช้งาน ทำให้ลูกค้านึกภาพออกว่าตอนพวกเขาใช้งานสินค้าจริง ก็จะได้ผลลัพธ์แบบในรูป/คลิปนี้เลย ช่วยจูงใจให้ซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น

• รายละเอียดสินค้า

ควรใส่รายละเอียดสินค้าให้ครบถ้วน โดยดูตามบริบทของสินค้าที่คุณขาย สินค้าบางอย่างที่เป็นของใช้ทั่วไป ราคาไม่แพง ไม่จำเป็นต้องเขียนรายละเอียดยาว ควรเขียนให้สั้น กระชับ บอกจุดเด่นหรือข้อดีออกมาให้ครบ จบภายในไม่กี่บรรทัด

ส่วนสินค้าบางอย่างที่มีราคาสูง มีขั้นตอนการใช้งานซับซ้อน ต้องการความน่าเชื่อถือในประสิทธิภาพ ควรเขียนรายละเอียดให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นวิธีใช้งาน วิธีประกอบ วัตถุดิบต่างๆ มีการการันตีความปลอดภัย มีประกัน ฯลฯ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ และเป็นการบ่งบอกว่าคุณรู้จริง ทำให้ตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น

• รีวิว 

รีวิว เป็นตัวกระตุ้นอย่างดีให้ผู้บริโภคซื้อสินค้า เพราะช่วยบอกถึงคุณภาพสินค้า การขนส่ง ความรู้สึกต่างๆ จากผู้ซื้อจริงหลังได้รับแล้วใช้สินค้า ดังนั้นปัจจัยไหนที่มีผลต่อการรีวิว เราต้องใส่ใจทุกขั้นตอนเพื่อให้ได้รีวิวที่ดี เช่น ความแน่นหนาในการแพ็คของ ความเร็วในการตอบแชท ความใส่ใจในการให้คำแนะนำหรือให้คำปรึกษากับลูกค้า ยิ่งมีรีวิวเยอะและเป็นรีวิวดีก็จะยิ่งทำให้การตัดสินใจของลูกค้าง่ายขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีร้านอื่นที่ขายถูกกว่าก็ตาม

 

3. ทำโปรโมชั่น

สิ่งสำคัญที่จะดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้อย่างดีคือ โปรโมชันและโค้ดส่วนลด เช่น 

– แจกโค้ดส่วนลดหน้าร้านให้ลูกค้าใหม่ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อให้เร็วขึ้น 

– จัดโปรโมชันเมื่อซื้อถึงยอดที่กำหนดจะได้ส่วนลดเพิ่มเพื่อเพิ่มยอดขาย 

– โค้ดส่วนลดการซื้อครั้งถัดไปตามเงื่อนไขและเวลาที่กำหนด เพื่อจูงใจให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ 

4. เข้าร่วมแคมเปญของแพลตฟอร์ม

เมื่อก่อนลูกค้ามีพฤติกรรมการซื้อสินค้าช่วงปลายเดือนที่เงินเดือนออก แต่ปัจจุบันพฤติกรรมเหล่านั้นเปลี่ยนไปแล้ว Meta เปิดเผยสถิติว่า คนไทยมักซื้อสินค้าออนไลน์ในช่วงที่แพลตฟอร์มจัดแคมเปญต่างๆ มากขึ้น เช่น 11.11, Mid Month, New Year, Flash Sale  ดังนั้นร้านค้าไม่ควรพลาดโอกาสนี้ การเข้าร่วมแคมเปญกับแพลตฟอร์มจะทำให้สินค้าของคุณอยู่ในหน้าแรก เพิ่มโอกาสการมองเห็น เพิ่มโอกาสในการคลิกเข้าร้านค้า และชักจูงใจให้ซื้อสินค้าด้วยโปรโมชันได้ง่ายขึ้น

 

5. ขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่ หรือ Remind ลูกค้าให้กลับมาซื้อด้วยการทำโฆษณา CPAS

CPAS มาจากคำว่า Collaborative Performance Advertising Solution หรือจะเรียกสั้นๆ ว่า Collaborative Ads เกิดจากการร่วมมือกันระหว่างแพลตฟอร์ม Marketplace กับ Facebook โดยให้เจ้าของธุรกิจสามารถยิงโฆษณาสินค้าของตัวเองบน Marketplace อย่าง Shopee Lazada มาที่ Facebook และ Instagram ได้ ซึ่งโฆษณาที่ผู้บริโภคแต่ละคนเห็นจะเปลี่ยนไปตามพฤติกรรมการเข้าชมสินค้าบนแพลตฟอร์มนั้นๆ 

การทำงานของโฆษณา CPAS เป็นดังนี้ เมื่อผู้บริโภคเข้าไปเยี่ยมชมสินค้า กดเพิ่มสินค้าลงตะกร้า ใน Shopee/Lazada เมื่อเปลี่ยนไปเล่น Facebook หรือ Instagram พวกเขาจะเริ่มเห็นโฆษณาของสินค้าที่เคยเข้าไปดูหรือกดเพิ่มลงตะกร้าไว้ตามไป และเมื่อกดคลิกที่โฆษณาก็จะถูกส่งไปยังหน้าซื้อสินค้านั้นในแอปของ Shopee/Lazada ได้เลย เพิ่มความสะดวกสบายในการซื้อ ดังนั้นโฆษณาประเภทนี้จะโชว์สินค้าตามความสนใจของผู้บริโภคโดยอ้างอิงจากพฤติกรรมการเข้าดูสินค้าหรือการมีปฏิสัมพันธ์กับสินค้าบนแพลตฟอร์มนั้นๆ

ประโยชน์ของการทำโฆษณา CPAS 

– ทำให้สินค้า ไปเจอกับคนที่ใช่ บนแพลตฟอร์มที่ใช่

– ช่วยสร้างการมองเห็นและสร้างปฏิสัมพันธ์อีกครั้งหนึ่ง กับผู้ที่พร้อมจะซื้อสินค้า หรือการทำ Retargeting ยังวนเวียนให้ลูกค้าเห็นจดจำแบรนด์

– งบที่ลงทุนไปไม่เสียเปล่า เพราะได้โปรโมตสินค้าไปยังผู้ที่ต้องการสินค้าอย่างแท้จริง

– ช่วยเพิ่ม Conversion และ CVR ค่อนข้างสูง

อยากเริ่มต้นทำโฆษณา CPAS ต้องทำอย่างไร

DTK AD ให้คำแนะนำสร้างกลยุทธ์เพิ่มรายได้บนแพลตฟอร์ม Marketplace อย่างมีคุณภาพและเห็นยอดขายเติบโตได้จริง จากประสบการณ์การทำงานให้กับแบรนด์ชั้นนำจากญี่ปุ่น และทำการตลาดในไทยมามากกว่า 10 ปี เริ่มต้นขอคำปรึกษาได้ก่อน ฟรี!

 

สรุป

Marketplace ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงลูกค้าจำนวนมากได้แบบทุกที่ ทุกเวลาได้ก็จริง แต่คุณยังต้องแข่งขันกับแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย เพื่อทำให้ผู้บริโภคเห็นสินค้าและร้านของเรามากที่สุด และที่สำคัญ ต้องดึงดูดให้พวกเขาซื้อสินค้าของเราให้ได้ด้วย 5 เทคนิคคือ ใช้คีย์เวิร์ดที่ลูกค้ามักค้าหา นำมาใส่ในชื่อสินค้า การเลือกใช้รูปภาพที่ดึงดูด มีคำบรรยายครบถ้วน และรีวิวที่ดีเพื่อทำให้ผู้บริโภคเชื่อถือร้านของคุณ นอกจากนี้ยังมีการสร้างโปรโมชั่นของร้าน และเข้าร่วมแคมเปญที่แพลตฟอร์มจัดขึ้นทุกๆ เดือน จะช่วยดันยอดขายได้ดีมาก สุดท้ายคือการทำ CPAS ดึงดูดผู้คนบนโซเชียลมีเดียให้เห็นสินค้าของเราในเวลาที่พวกเขาต้องการ 

อ่านบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้ที่นี่

• ทำไมถึงต้องทำ การตลาดออนไลน์ ? เริ่มยังไงให้ปัง พร้อมเคล็ดลับ

• Up selling และ Cross selling คืออะไร? พร้อมเทคนิคเพิ่มยอดขายให้ติดจรวด

• รวม 6 เครื่องมือหา Keyword ทำ SEO และ SEM ให้แข็งแกร่งเหนือคู่แข่ง คำไหนที่ควรใช้?

• Social Media Marketing (SMM) คืออะไร? ทำอย่างไรให้ยอดขายพุ่ง ธุรกิจโต

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารที่นักการตลาดต้องรู้ อัปเดตใหม่เรื่อยๆ ที่ Facebook: DTK AD Co., Ltd.

 

Source: [1], [2]

 

Author: Wanna Julanon