ชีวิตที่ดีทีเค มาฟังผลการสอบวัดระดับภาษาไทยของหนุ่มๆ ญี่ปุ่นที่บริษัท DTK AD กันเถอะ By dtkad Posted on 27 กุมภาพันธ์ 2019 0 560 Views มาฟังผลการสอบวัดระดับภาษาไทยของหนุ่มๆ ญี่ปุ่นที่บริษัท DTK AD กันเถอะ สวัสดีครับทุกคน! มาเจอกับผมอีกแล้ว Marketer ของ DTK AD ไทกิ โบฟิสเองครับ! คิดว่าน่าจะมีหลายๆ ท่านที่เคยอ่านบล็อก entry ก่อนหน้านี้ของเรา [จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนญี่ปุ่นขอลองทำข้อสอบวัดระดับ JLPT N1!?] มาก่อนนะครับ สำหรับท่านที่เคยอ่านแล้ว ยังจำกันได้มั้ยครับว่าตอนจบเราทิ้งท้ายไว้ว่าอย่างไร? “บริษัทญี่ปุ่นทั้งหลายที่กำลังขยายสาขาออกไปในต่างประเทศ รวมถึงบริษัทญี่ปุ่นในไทยจึงต้องมีการปรับตัว และมองหาหนทางในการทำลายกำแพงภาษาลง เพื่อให้การทำงานเป็นไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด” ด้วยเหตุนั้น ผมจึงเกิดปิ๊งไอเดียล้ำเลิศขึ้นมา และตัดสินใจชวนพนักงานญี่ปุ่นทุกคนในบริษัทไปสอบวัดระดับภาษาไทยกันครับ ยังจำกันได้มั้ยนะ? *ท่านไหนยังไม่เคยอ่านก็เชิญเลยนะครับ แต่ก่อนที่จะไปฟังผลกัน ขออนุญาตบอกก่อนว่า การสอบครั้งนี้พวกเราทุกคนมีเวลาเตรียมตัวกันแค่ 20 วันเท่านั้น เท่ากับว่าเรามีเวลาอ่านหนังสือเตรียมสอบแค่……. 20 วัน!!! ในเวลาแค่ 20 วัน….พวกเราจะทำข้อสอบได้ดีขนาดไหนกันนะ….. #เหม่อ แล้วการสมัครสอบวัดระดับภาษาไทยเนี่ยเขาทำยังไงกันนะ? สำหรับท่านที่อยากจะสอบวัดระดับภาษาไทยที่กรุงเทพ สามารถเข้าไปดาวน์โหลดใบสมัครจากในโฮมเพจ กรอกข้อมูลส่วนตัวลงไป และติดรูปที่ถ่ายไว้ภายในระยะเวลาหกเดือน (ไซส์ 4cm x 3 cm) และส่งใบสมัครไปตามที่อยู่ที่ระบุไว้ครับ! จากนั้นก็เหลือแค่โอนเงินค่าสมัครสอบไปยังบัญชีที่ระบุไว้ สำหรับระดับ 5 ค่าสอบ 2,000 บาท (ประมาณ 6,600 เยน) เท่านี้การสมัครก็เรียบร้อยครับ * ข้อควรระวัง : ไม่สามารถสมัครสอบทางเคาน์เตอร์หรือสมัครโดยตรงทางพนักงานได้นะครับ ต้องยื่นทางไปรษณีย์และโอนเงินเข้าบัญชีเท่านั้น สำหรับพวกผมตอนแรกก็ไม่รู้หรอกครับว่าจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ไม่ได้ เลยต้องรีบร้อนหาที่โอนเงินทางอินเตอร์เน็ตกันตาลีตาเหลือกเลย โชคดีที่ทันแบบเฉียดฉิวเลยไม่งั้นอดสอบแน่นวล หลังจากนั้นราวหนึ่งสัปดาห์ก็ได้รับบัตรประจำตัวสอบมาแบบนี้ครับ จริงๆ แล้วระดับ 5 ของการสอบภาษาไทยนี่มันยากขนาดไหนกันนะ? จากในเว็บไซต์ของผู้จัดสอบ ระดับ 5 จะเป็นระดับสำหรับผู้เริ่มต้น ทั้งตัวคำถามและช้อยส์จึงจะเขียนด้วยตัวคาตาคานะและอักษรโรมาจิแทนที่จะใช้ตัวอักษรไทย เพราะเลเวลนี้เหมือนว่าจะเป็นเลเวลสำหรับผู้ที่มีความสามารถภาษาไทยระดับพูดคุยในชีวิตประจำวันได้แต่อ่านเขียนตัวหนังสือภาษาไทยไม่ได้ครับ FYI นี่คือตัวอย่างคำถามของระดับ 5 ครับผม *ภาพด้านบนตัดมาจากตัวอย่างข้อสอบระดับ 5 แล้วต้องได้กี่คะแนนถึงจะผ่านการสอบวัดระดับภาษาไทย? คะแนนเต็ม 100 ต้องสอบให้ได้เกิน 70 คะแนนขึ้นไปถึงจะผ่านครับ ถ้าทำได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ก็ผ่านแล้ว ถึงจะมีเวลาเตรียมตัวแค่ 20 วันแต่ก็พอจะมีความหวังอยู่นะครับเนี่ย แต่ช้าก่อน! สำหรับ CEO คิมุระซังที่เคยอยู่ไทยมานานจนพูดไทยเก่งแทบจะเป็น Native อยู่แล้ว แค่ 70 เปอร์เซ็นต์มันน้อยไป เราก็เลยตกลงกันว่าสำหรับคิมุระซังคนเดียว ต้องได้ 90 คะแนนขึ้นไปจึงจะถือว่าผ่านครับผม เอาล่ะ ต่อไปเข้าสู่ช่วงแนะนำตัวเมมเบอร์ของเรากันแล้วนะครับ สำหรับท่านที่เพิ่งเคยอ่าน DTK BLOG เป็นครั้งแรก! CEO : คิมุระ โคจิ อาศัยอยู่ที่ไทยมานานกว่า 16 ปี พูดภาษาไทยเก่งระดับเจ้าของภาษา มั่นใจมากว่าจะสอบภาษาไทยระดับ 5 ได้เต็มแน่นอน! COO : มัตสึดะ เคย์ตะ เคยอยู่ประเทศไทยมา 4 ปี ไม่ค่อยมั่นใจในเรื่องภาษาไทยของตัวเองสักเท่าไหร่ แต่โดยพื้นฐานเป็นคนเกลียดความพ่ายแพ้มากๆ Sales Manager : โทมิตะ ฮิโรยูกิ อยู่ไทยมาราวๆ สามเดือน ถึงแม้จะเป็นระยะเวลาแค่สั้นๆ แต่ด้วยความที่เป็นเด็กรักเรียน จึงสามารถยืดอกสู้กับทุกคนได้ครับผม Marketing Manager : โบฟิส ไทกิ อยู่ไทยมาครบ 1 ปีพอดี! มีความมั่นใจในเรื่องของภาษาแบบเต็มร้อย! ไอ้เรื่องแบบว่าสอบตก สอบไม่ผ่านอะไรยังงี้ไม่มีแน่นอน! พวกเราทั้งสี่คนนี้ จะสอบผ่านอย่างสวยงามครบทุกคนหรือเปล่านะ? ตามไปลุ้นผลกันเลยดีกว่าครับ~ ช่วงเตรียมตัวสอบ ถึงจะบอกว่าเป็นการเตรียมสอบก็เถอะ จริงๆ แล้วก็เหลือเวลาแค่ประมาณสองอาทิตย์เท่านั้นเอง และในสองอาทิตย์นั้นพวกเราก็ต้องอ่านหนังสือกันหนักหน่วงมากๆ จัดว่าเป็นตารางติวสอบที่โหดไม่เบาเลยทีเดียวครับ เริ่มต้นด้วยการซื้อหนังสือเตรียมสอบหลายๆ เล่มมาก่อน ซึ่งทุกๆ ท่านเอง สมัยเป็นนักเรียนก็น่าจะเคยทำเนียนแบบว่า “เฮ้ย เราไม่ได้อ่านมาจริงๆ แกรรรร” ทั้งที่จริงๆ แล้วโต้รุ่งอ่านมาเจ็ดวันเจ็ดคืนใช่ไหมล่ะครับ!? นอกจากท่านประธานคิมุระแล้ว ทุกคนพากันตั้งใจอ่านหนังสือ (แบบลับๆ) กันใหญ่เลยครับ เชิญชมภาพที่ช่างภาพของเราแอบไปเก็บมาได้เลย… ฮืมมม ทุกคนไม่มีใครยอมใครเลยจริงๆ นะครับเนี่ย และแล้วก็ถึงวันสอบจริง… เอาล่ะ…ในที่สุดก็ถึงวันสอบจริงแล้วนะครับ ระดับ 5 จะเริ่มสอบตั้งแต่ 8 โมงเช้าเป็นต้นไปครับ แต่เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย เราก็เลยมากันแต่เช้าครับ นับว่ามีจิตใจพร้อมสู้รบกันทุกคนเลยทีเดียว ระหว่างสอบเขาห้ามถ่ายภาพ เลยไม่มีภาพบรรยากาศในห้องสอบมาให้เห็น แต่อยากให้รู้ไว้ว่าพวกเราทุกคนตั้งใจกันสุดๆ ตลอด 70 นาทีเลยจริงๆ นะครับ! ส่วนความรู้สึกของแต่ละคนก็… คิมุระ : “น่าจะผิดไปข้อนึงนะ แต่ 90 คะแนนนี่แบบเหลือๆ อ่ะ” ↑ เสียงในใจของไทกิ : จริงๆ นายจะทำได้มันก็ไม่แปลก แต่คราวที่แล้วก็ผิดไปตั้งหลายข้อเพราะความประมาทเป็นหนทางสู่ความพังไม่ใช่เรอะ มัตสึดะ : “จริงๆ ต้องบอกเลยว่าถ้าผ่านก็ผ่านแบบฉิวเฉียดแน่ๆ” ↑ เสียงในใจของไทกิ : นี่มันประเภททำเป็นพูดว่าทำไม่ได้แต่จริงๆ แล้วก็ทำได้ใช่มั้ยล่ะ โทมิตะ : “……” ↑ เสียงในใจของไทกิ : อืมมม มันก็มีคนอีกพวกที่เงียบๆ แบบเสือนอนกิน แล้วสุดท้ายก็ผ่านฉลุยอยู่นี่นะ~ ไทกิ : “ฮ่าาาาา ผ่านชัวร์ไม่มั่วนิ่มนะจะบอกให้~” ↑ เสียงในใจของทุกคน : อย่างเอ็งนี่โกงแหงๆ อยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ!?! (นั่งข้างคิมุระซังด้วยนี่นาตอนสอบอ่ะ!) ประกาศผล! ตามปกติแล้วจะประกาศผลหลังวันสอบ 30 วันโดยจะส่งผลมาให้ที่บ้านครับ ทำให้พวกเราต้องมานั่งลุ้นกันอยู่ทุกวัน แบบ ผลมายัง ผลมายังน้า มารึยังน้าาา แล้วก็เดินไปเช็คตู้ไปรษณีย์กันแทบจะทุกสามชั่วโมงเลยล่ะครับ และในที่สุดวันนั้นก็มาถึง! ผลสอบของพวกเราทั้งสี่คนมาถึงแล้วววววววว! แต่….ไหงเฉพาะของโทมิตะซังถึงเป็นซองจิ๋วไปได้นะ…? ก่อนจะไปสอบพวกเราได้ประกาศให้พนักงานทุกคนทั้งไทยและญี่ปุ่นทราบแล้ว ดังนั้นเมื่อผลมาถึงทุกคนก็เลยมาร่วมลุ้นไปด้วยกันตอนเปิดซอง… และก่อนจะไปถึงการประกาศผลสอบขอแทรกอีกนิด…พอดีก่อนไปสอบเราทำแบบสอบถามให้คนไทยกรอกเอาไว้…และผลก็เป็นตามนี้ครับ บุคคลที่สอบผ่านแน่นอน : CEO คิมุระ, COO มัตสึดะ บุคคลที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะผ่าน : Sales Manager โทมิตะ บุคคลที่จะผ่านหรือไม่ผ่านก็ช่าง : Marketing Manager ไทกิ ช่างเป็นความเห็นที่ตรงไปตรงมาเสียจริงๆ เลยนะครับ… แต่จะออกหัวหรือออกก้อยก็มาดูกันเลย!! สรุปไอ้ซองจิ๋วเนี่ยก็คือสอบไม่ผ่านจริงๆ นั่นแหละครับ และนี่ก็คือโทมิตะผู้กำลังโศกเศร้ากับผลสอบที่แสนจะน่าผิดหวังนี้ โถๆๆๆๆ ส่วนคนอื่นๆ นั้นมีกระดาษอีกใบหนึ่งแนบมาด้วยครับ กระดาษใบนี้มาพร้อมกับคะแนนสอบของพวกเรานั่นเอง และทันทีที่ได้เห็นตัวเลขบนหน้ากระดาษ ใบหน้าของคิมุระซังที่รื่นเริงมาจนถึงเมื่อกี้ก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือดในทันใด… ทำไมน่ะหรือ….? ลองดูผลคะแนนสอบของทุกคนให้ดีๆ สิครับ อันดับ 1 คิมุระ : 89 คะแนน อันดับ 2 มัตสึดะ : 84 คะแนน อันดับ 3 ไทกิ : 75 คะแนน . . . . คนสอบตก โทมิตะ : 34 คะแนน ถึงแม้สามคนแรกจะสอบผ่านฉลุย แต่เดี๋ยวก่อน…!! ยังจำได้ไหม จำได้รึเปล่า… [สำหรับ CEO คิมุระซังที่เคยอยู่ไทยมานานจนพูดไทยเก่งแทบจะเป็น Native อยู่แล้ว แค่ 70 เปอร์เซ็นต์มันน้อยไป เราก็เลยตกลงกันว่าสำหรับคิมุระซังคนเดียว ต้องได้ 90 คะแนนขึ้นไปจึงจะถือว่าผ่านครับผม] ยังมีเงื่อนไขที่เราตกลงกันไว้อยู่อีกข้อนาจาาาาาา และด้วยเหตุนี้….! ท่านประธานคิมุระผู้น่าสงสารจึงเศร้ายิ่งกว่าโทมิตะผู้สอบตกเสียอีกนะครับ ทั้งๆ ที่ลั่นวาจาไว้ว่าน่าจะผิดแค่หนึ่งข้อ แต่สุดท้ายก็…….. อ้อ แต่บอกไว้ก่อนว่าอย่าง DTK เนี่ย ไม่ได้มาเล่นๆ นะครับ เพราะเราเตรียมบทลงโทษไว้ให้สำหรับคนที่สอบไม่ผ่านด้วย! ไว้จะมาอัพเดตในบล็อก Entry ถัดไป อย่าลืมติดตามกันนะครับ! แล้วก็ดูใบหน้าชั่วร้ายของโทมิตะผู้ซึ่งปกติแล้วเคร่งขรึมสิครับ จะสะใจอะไรเบอร์นี้! ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าถึงแม้จะมีเวลาเพียง 20 วันแต่ทุกคนก็ทำอย่างเต็มที่กันจริงๆ นะครับ ส่วนโทมิตะผู้พลาดหวังในครั้งนี้ก็จะขอลองใหม่ในการสอบครั้งต่อไปช่วงฤดูใบไม้ร่วงครับ! ทุกคนก็ช่วยกันส่งแรงใจเชียร์เขากันเยอะๆ นะครับ! ส่งท้าย หลังจากการทดลองสอบภาษาไทยระดับ 5 ดูก็พบว่า การฝึกใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวันอยู่เป็นประจำจะช่วยให้สปีดการพัฒนาความสามารถทางภาษาพุ่งขึ้นอย่างเร็วเลยล่ะครับ การเรียนภาษานี่มันต้องฝึกฝนจริงๆ นะครับ คุณผู้อ่านก็จะลองไปสอบดูมั้ยล่ะครับ เห็นพนักงานคนไทยเค้าว่าระดับ 1 เนี่ยแม้แต่คนไทยเองยังทำแทบไม่ได้เลยล่ะครับ ถ้าลองสอบแล้วไว้มาเล่าให้ฟังด้วยก็ดีนะครับ ฮ่าๆ ส่วนพวกผมที่ DTK ก็จะเริ่มอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบระดับ 4 กันแล้วล่ะ! (จะดีเหรอ…?) แล้วเจอกันใหม่ Entry ถัดไปครับผม!